วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ชมทะเล สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน @ เกาะยาวน้อย

เกาะยาว เป็นอีกเกาะหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูเก็ต กระบี่ และพังงา มี 2 เกาะคือ เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลกึ่งกลางระหว่าง 3 จังหวัด ดังนั้นเกาะยาว จึงสามารถเดินทางมาเที่ยวได้โดยเดินทางจากทั้ง 3 จังหวัด

ทริปที่เราพากันไปรอบนี้ เราไปเที่ยวเกาะยาวน้อยกัน 3 วัน 2 คืน ไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน พักแบบโฮมสเตย์ ร่วมกันชาวบ้านที่ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง



ทริปนี้ ชาวคณะเดินทางกันมาก่อนจากกระบี่ โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือท่าเลน จ.กระบี่ ตั้งแต่เช้า เรือจากท่าเรือท่าเลน ไปเกาะยาวน้อย เริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปจนถึง 5 โมงเย็น มีเรือออกทุกชั่วโมง ถ้ามาตรงกับเวลาของเรือสปีทโบ๊ท ค่าเรือก็ 200 บาท มาเรือหางยาวก็ 120 บาท / ท่าน ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ก็มาถึงเกาะยาวน้อย เจ้าของบ้านพักต้อนรับ รับจากท่าเรือพาคณะไปเก็บของที่บ้าน พัก เพื่อพักผ่อน ทานอาหารเที่ยง และเตรียมตัวออกสำรวจเกาะยาวน้อยรอบๆเกาะ
รอบนี้ไปกัน กลุ่มใหญ่ รวมทั้งสิน 20 คน บ้านพักแบ่งเป็น 2 หลัง นอนกันแบบอบอุ่นๆ รถที่ใช้เดินทางเที่ยวเกาะยาว เป็นรถสองแถว และรถกะบะ พาเด็กๆ ไปเล่นน้ำทะเล รอบๆเกาะ

ตกเย็นเรา ตัวแทนจากทีมงาน Okali Tours ก็เดินทางมาเสริม โดยเดินทางจากจากภูเก็ต ขึ้นเรือที่ท่าเรือบางโรง เรือที่เดินทางจากภูเก็ตมาเกาะยาว มีตั้งแต่ 7 โมงเช้า ไปจนเที่ยวสุดท้ายเวลา 5 โมงเย็น มีเรือออกทุกชั่วโมง ไม่ต้องรอนาน ค่าเรือสปีทโบ๊ท 200 บาท เรือหางยาว 120 บาท วันนี้เราใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที ก็มาถึงเกาะยาวน้อยแล้ว
ที่มา http://travel.sanook.com/949955/%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

gg

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

เที่ยวอีสาน



สุดยอดอลังการแห่งปราสาทหิน

เขมรกับไทยมีความสัมพันธ์กันมาช้านาน มีเรื่องเล่าว่า ถ้าไม่มีเขมร คนไทยก็จะหายใจไม่ได้และเดินไปไหนไม่ถูก เพราะคำว่าจมูกและคำว่าเดินมาจากภาษาเขมร ดังนั้น การมีปราสาทหินอารยธรรมขอมมากมายในดินแดนไทยจึงนับเป็นเรื่องปรกติ ไม่มีอะไรแปลกประหลาด

ปราสาทหินนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอีสาน และมีจำนวนมากมาย ตั้งแต่ใต้สุดของจังหวัดอุบลราชธานี ไปจนถึงเหนือสุดที่พระธาตุนารายณ์เจงเวง จังหวัดสกลนคร ในบรรดาปราสาทหินอารยธรรมขอมจำนวนมากมายเหล่านี้ อาจจำแนกออกได้เป็นสิ่งก่อสร้าง 1 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ ศาสนสถาน ธรรมศาลาหรือบ้านมีไฟที่สร้างไว้เพื่อเป็นที่พำนักของคนเดินทาง และอโรคยศาลาหรือโรงพยาบาล ที่มีแพทย์คือ พราหมณ์ผู้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นหมอ

ปราสาทหินอันเป็นที่รู้จักในภาคอีสานและเป็นสุดยอดในด้านต่างๆ ตัวอย่างเช่น ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินทรายสีชมพูบนปากปล่องภูเขาไฟแห่งเมืองบุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย ปราสาทที่เป็นดังตันแบบแห่งปราสาทหลายแห่งในเมืองเสียมเรียบ ปราสาทตาเมือน ที่มีทั้งอโรคยศาลาและธรรมศาลาครบครัน อยู่ใกล้ๆ ปราสาทหินพนมวัน ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ปราสาทสระกำแพงน้อย และปราสาทศรีขรภูมิ เป็นต้น

ที่มา : http://travel.kapook.com/view2525.html


สุดยอดความงามทุ่งดอกไม้ป่า

ในบรรพาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลายประเภทในประเทศไทยนั้น ทุ่งดอกไม้ป่านับเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่เที่ยวได้เที่ยวดี ใครๆ ก็ไปเที่ยวได้ ใครๆ ก็ชอบ แทบไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ วัย ความเก่งกล้าสามารถ หรือแม้กระทั่งความรอบรู้ของนักท่องเที่ยว

ภาคอีสานมีทุ่งดอกไม้ป่าอันงดงามอยู่จำนวนไม่น้อย โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ ทุ่งกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ ทุ่งดอกไม้ดินที่ป่าสมอปูน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา-ปราจีนบุรี ทุ่งดอกไม้ดินที่ภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร กลุ่มดอกไม้ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย กลุ่มดอกไม้ป่าบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดหนองคาย และทุ่งดอกไม้ดินที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบนราชธานี เป็นต้น

นอกจากทุ่งดอกไม้ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีนี้แล้ว ยังมีทุ่งดอกไม้ประเภทขึ้นเองตามหัวไร่ปลายนา และทุ่งดอกไม้ปลูกเพื่อเอาน้ำมันอีกบางชนิด ที่ในฤดูกาลก็สวยงามบานสะพรั่งน่าไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งอีกหลายประเภท เช่น ทุ่งดอกหญาบัว ดอกปอเทือง และทุ่งดอกทานตะวัน แถบรอยต่อจังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรี เป็นต้น
ที่มา : http://travel.kapook.com/view2525.html

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร





วัดโพธิ์ หรือนามทางราชการว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกและเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาวัดโพธารามวัดเก่าที่เมืองบางกอกครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวัง และที่ใต้พระแท่นประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ท่านไว้ด้วย

พระอารามหลวงแห่งนี้มีเนื้อที่ ๕๐ ไร่ ๓๘ ตารางวาอยู่ด้านทิศใต้ของพระบรมมหาราชวัง ทิศเหนือจดถนนท้ายวัง ทิศตะวันออกจดถนนสนามไชย ทิศใต้จดถนนเศรษฐการ ทิศตะวันตกจดถนนมหาราช มีถนนเชตุพน ขนาบด้วยกำแพงสูงสีขาวแบ่งเขตพุทธาวาสและสังฆาวาสชัดเจน
ที่มา : http://www.dhammathai.org/watthai/bangkok/watpho.php

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร




วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว

เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังที่ประทับนั้น ทรงเอาป้อมวิชัยประสิทธิ์ข้างฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งตัวพระราชวัง แล้วขยายเขตพระราชฐานจนวัดแจ้งเป็นวัดภายในพระราชวัง เช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์สมัยอยุธยา และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ใน พ.ศ. 2322 ก่อนที่จะย้ายมาประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามใน พ.ศ. 2327
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม





วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ที่นำมาจากกรุงเวียงจันทร์ แต่แท้ที่จริงแล้ว พบเจอวัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย และเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส

วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด การบูรณะครั้งใหญ่ทั้งพระอาราม มีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2425 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามในโอกาสที่มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ในรัชกาลปัจจุบันโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามอีกครั้งใน พ.ศ. 2525 เมื่อมีการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานในการบูรณะ

วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของบ้านเมือง ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ
ที่มา :http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1
http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.dhammathai.org/watthai/bangkok/pic31/prasiratana2.jpg&imgrefurl=http://www.dhammathai.org/watthai/bangkok/watprasiratana.php&h=332&w=510&sz=43&tbnid=_oFIte8mF1JPQM:&tbnh=90&tbnw=138&zoom=1&docid=MGwU-rvve0zlNM&hl=th&sa=X&ei=f4Z1T-7MAoXZrQej3q2MDQ&sqi=2&ved=0CEsQ9QEwAQ&dur=662

สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี



สวนนงนุช สถานที่ท่องเที่ยวเอกชนในบรรยากาศธรรมชาติ ที่มีการจัดการพื้นที่ภายใต้แนวคิด "จัดสวนให้คนมาเที่ยว"ของคุณนงนุช ตันสัจจา ผู้ก่อตั้งสวนนงนุช มีการสร้างสรรค์ตกแต่งให้มีบรรยากาศแบบธรรมชาติ มีน้ำตกจำลอง ทะเลสาบ สวนไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด โดยมีสวนกล้วยไม้ สวนเฟิร์น สับปะรดสี สวนไม้พุ่ม ไม้ดัด สวนหิน ตะบองเพชร และปาล์มจากทั่วทุกมุมโลก

ภายในสวนนงนุชมีสถานที่น่าสนใจมากกว่า 60 จุด มีสวนสัตว์และศูนย์วัฒนธรรมไทยเปิดแสดงศิลปะการฟ้อนรำของแต่ละภาค ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว กีฬาพื้นบ้านและการแสดงของช้างแสนรู้เปิดแสดงทุกวัน

ในพื้นที่เกือบ 1500 ไร่ของสวนนงนุชที่เต็มไปด้วยพฤกษานานาพรรณ สิ่งปลูกสร้างสวยงามมากมาย สัตว์เลี้ยงน้อยใหญ่อีกหลากหลายชนิด ได้รับการดูแลอย่างดี มีการปรับปรุงดัดแปลงอยู่ตลอดเวลา นักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพที่สวยงาม แปลกใหม่ สดชื่น ในทุกครั้งที่เข้ามาเที่ยวชม

ที่ผ่านมาสวนนงนุชพัทยา เคยได้รับรางวัลต่างๆอาทิเช่นได้รับ มาตรฐานปาง (แค้มป์) ช้างประเทศไทยจากกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปีพ.ศ 2546-พ.ศ 2548 รางวัลนี้ให้ในองค์ประกอบหลายอย่างอาทิเช่น ช้างและควาญมีสุขภาพที่สมบูรณ์มีการดูแลเอาใจใส่ได้รับการตรวจรักษาที่ครบถ้วนจากผู้ดูแล

และสวนนงนุชยังได้รับรางวัล" กินรีเงิน " แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการนันทนาการ ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีกด้วย.

ที่มา :http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction/chonburi/nongnuch-park.html

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

Amazing Thailand


ที่มา: http://www.youtube.com/watch?v=k-hACeKRhK8

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย




ข้อมูลจังหวัดและแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย
ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายในทุกจังหวัดทั่วทุกภูมิภาค และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการหาข้อมูลของนักท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้จัดรวบรวมข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด แยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ตามภูมิภาคและแบ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมเป็นพิเศษอีก รวมทั้งหมด 89 แห่ง
ที่มา: http://thai.tourismthailand.org/where-to-go/